
เมื่อพูดถึงเทศกาลวาเลนไทน์หรือเทศกาลแห่งความรักหลายคนก็จะนึกถึงขนมหวานที่ชื่อว่า “ช็อกโกแลต” เนื่องจากช็อกโกแลตเป็นเหมือนสัญลักษณ์แห่งความหอมหวาน ความสุข ความรัก ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะว่าเมื่อรับประทานช็อกโกแลตเข้าไปแล้วร่างกายจะไปลดฮอร์โมนคอร์ติซอลซึ่งเป็นหนึ่งในฮอร์โมนที่ก่อให้เกิดความเครียด ความวิตกกังวล ความเจ็บปวด แล้วไปเพิ่มฮอร์โมนแห่งความสุขซึ่งได้แก่ เอ็นโดรฟินและเซโรโทนิน นอกจากความสุขแล้วในช่วงสิบปีที่ผ่านมาได้ศึกษาพบคุณประโยชน์ของช็อกโกแลตต่อสุขภาพมากมาย คือ ในช็อกโกแลตมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่สูง เช่น โพลีฟีนอล โดยทำหน้าที่ช่วยปกป้องเซลล์ร่างกายจากอนุมูลอิสระ ทำให้ลดการเกิดโรคอัลไซเมอร์ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง
และนอกเหนือจากสารต้านอนุมูลอิสระแล้วในช็อกโกแลตยังมีสารต้านการอักเสบ สารต้านการแพ้ สารต้านการก่อตัวของเซลมะเร็ง และสารต้านไวรัส ซึ่งล้วนแต่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ด้วยเหตุผลที่ดีต่อสุขภาพทำให้คนรับประทานช็อกโกแลตกันมากขึ้นและอาจทำให้เกิดการติดช็อกโกแลตตามมา แม้ว่าช็อกโกแลตจะมีประโยชน์อย่างมากต่อร่างกาย แต่ส่วนที่ประกอบขึ้นเป็นแท่งช็อกโกแลตแสนอร่อยนั้นมักมีน้ำตาลอยู่ในปริมาณสูงมาก หากว่าได้รับในปริมาณที่มากเกินไปก็จะทำให้อ้วนได้
วิธีการรับประทานช็อกโกแลตอย่างมีความสุขและไม่อ้วน
• เมื่อเลือกรับประทานช็อกโกแลตเป็นของว่างหรือขนมหวานแล้ว ควรที่จะลด หรือหลีกเลี่ยงการรับประทานขนมหวานอย่างอื่น และควรที่จะหลีกเลี่ยงการรับประทานช็อกโกแลตกับไอศกรีม ขนมเค้ก คุกกี้ เพราะจะทำให้ได้รับพลังงานที่สูงเกินไป และจะทำให้อ้วนได้ง่าย ควรเลือกรับประทานช็อกโกแลตเปล่าๆ หรือรับประทานร่วมกับชาไม่ปรุงรส หรือน้ำสมุนไพรไม่ใส่น้ำตาล
• รับประทานช็อกโกแลตช้าๆ ค่อยๆ ให้ละลายในปาก แทนที่จะเคี้ยวและกลืนอย่างรวดเร็ว อุณหภูมิในร่างกายคนเราจะสูงกว่าจุดละลายของช็อกโกแลต เมื่อช็อกโกแลตเข้าในปากจะละลายได้ช้าๆ ช่วยให้ได้รับรสชาติของช็อกโกแลตมากกว่าและจะส่งผลต่อความรู้สึกมีผลให้สมองรับรู้ความสุข แม้ว่าจะรับประทานในปริมาณน้อย ซึ่งหากรับประทานโดยการเคี้ยวและกลืนเร็วร่างกายจะต้องการช็อกโกแลตในปริมาณมากเพื่อให้เกิดความสุขสิ่งที่ตามมาคือพลังงานที่สูงเกิน
• ก่อนเลือกซื้อช็อกโกแลต พยายามเลือกผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลตที่มีเปอร์เซนต์ของโกโก้มากที่สุด มีน้ำตาลน้อย เลือกช็อกโกแลตดำหรือดาร์คช็อกโกแลตดีกว่าช็อกโกแลตนมและช็อกโกแลตขาวหรือไวท์ช็อกโกแลต
• เลือกช็อกโกแลตที่มีขนาดชิ้นเล็กๆ ในแต่ละคำแทนที่จะเลือกชิ้นที่มีขนาดใหญ่ จากการวิจัยพบว่าการรับประทานช็อกโกแลตดำขนาดเล็ก (5 กรัม) จะไม่ทำให้น้ำหนักขึ้นและช่วยให้ไม่รับประทานอาหารจุบจิบ นอกจากนี้ ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง
ในช่วงเทศกาลแห่งความรักนี้หากเผลอรับประทานช็อกโกแลตเข้าไปเยอะ ก็ควรที่จะเสริมด้วยการออกกำลังกายให้มากขึ้นและเลือกรับประทานอาหารอย่างอื่นที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย รับประทานผักและผลไม้ให้สม่ำเสมอ อีกเรื่องที่คนกลัวเกี่ยวกับการรับประทานช็อกโกแลตคือการเกิดสิว แต่ล่าสุดงานวิจัยระบุว่าการรับประทานช็อกโกแลตไม่มีความเกี่ยวข้องกับการเกิดสิวแถมยังช่วยให้ผิวสวยขึ้น อย่างนี้แล้วในวาเลนไทน์นี้ก็มาหุ่นดีมีความสุขกับช็อกโกแลตกันได้ตามที่แนะนำข้างต้น
ดร.ฉัตรภา หัตถโกศล
อาจารย์ประจำภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชน
ในชุดโครงการ “รวมพลัง ขยับกาย สร้างสังคมไทย ไร้พุง”
เครือข่ายคนไทยไร้พุง ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย
สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)